tales of arise รีวิว มหากาพย์ตำนานบทใหม่ที่ยกระดับซีรีส์ Tales ไปอีกขั้น นี่คือหนึ่งในสุดยอดผลงานเกม JRPG ที่แฟนเกมแนวนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง จัดเป็นซีรีส์ที่อยู่คู่บุญวงการเกม JRPG มาอย่างยาวนานสำหรับซีรีส์ Tales of และล่าสุดในภาคใหม่อย่าง Tales of Arise เหล่าทีมพัฒนาก็หมายมั่นปั้นมือให้ภาคนี้ถือเป็นการยกระดับนำพาเกมตระกูลนี้ไปสู่เป้าหมายและทิศทางใหม่อีกครั้ง และภาคนี้มันมีอะไรดี ทำไมเราถึงยกให้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งสุดยอดผลงานเกม JRPG แห่งยุค เราไปดูกันเลย tales of arise ภาษาไทย
เนื้อเรื่อง tales of arise รีวิว
tales of arise รีวิว เกิดขึ้นที่ Dahnan ดาวเคราะห์ที่ถูกปกครองโดย Rena Empire ผู้กดขี่มาเป็นเวลากว่า 300 ปี ภายใต้การปกครองของ Rena พวกเขากดขี่ชาว Dahnan ทั้งหมด ถูกสั่งให้บังคับเป็นกรรมกรตลอดชีวิต ประชาชนเสียชีวิตจากการทำงานหนักหรือฝ่าฝืนคำสั่ง มันเป็นเหตุการณ์ปกติในดินแดนนี้ และชาวเมือง Dahnan จำนวนมากยอมรับชะตากรรมอันเลวร้ายของเขา
ในเกมนี้ คุณเล่นเป็นชายสวมหน้ากากเหล็ก (ชื่ออัลเฟน) ที่สูญเสียความทรงจำและไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป กลายเป็นทาสของเรน่าและต้องรับใช้เผด็จการมาตลอดชีวิต จนวันที่เขาได้พบกับชิออน เด็กสาวลึกลับจากเรน่าที่ถูกกลุ่มของเธอเองตามล่า และต้องขอบคุณคำสาปลึกลับ “คำสาปหนาม” ที่ทำให้ทั้งสองสามารถหลบหนีการจับกุมโดยทหารของเรน่าได้ด้วยความช่วยเหลือจากกลุ่มต่อต้าน
แม้แต่ Alphen และ Shionne ก็มีเหตุผลที่แตกต่างกันในการผจญภัย แต่พวกเขามีเป้าหมายเดียวกัน คือโค่นล้มผู้นำอาณาจักรทั้งหมด จากนั้นทั้งสองก็ออกผจญภัยไปทั่วประเทศ เพื่อตามล่าและเอาชนะลอร์ดและปลดปล่อยชาว Dahnan ให้เป็นอิสระอีกครั้ง tale of arise บทสรุป
หลังสัมผัส Story ของ Tales of Arise สิ่งที่ต้องกล่าวถึงเป็นอย่างแรก คือบรรยากาศและโทนนำเสนอเนื้อเรื่อง มีกลิ่นอายความเข้มข้น ซีเรียส และดาร์กกว่าเกมตระกูล Tales of ที่ผ่านมา โดยธีมหลักของเกมภาคนี้จะเป็นการเสียสละ การไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค และประเด็นของชนชั้น ซึ่งนับว่าเป็นประสบการณ์การเล่นเกม Tales of ที่จัดว่าแปลกใหม่พอสมควร
แม้เนื้อเรื่อง Tales of Arise มีโทนซีเรียสมากขึ้น แต่เนื้อหาโดยรวมก็ยังเข้าถึงเกมเมอร์ได้ง่าย ไม่มีการโยน Lore หรือเนื้อหา Deep เยอะเกินไปจนทำให้หลายคนมึนตึบ และระหว่างการผจญภัยได้มีการสอดแทรกฉากพูดคุย Skit ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ Tales of มาช่วยเสริมเนื้อหาให้เพลเยอร์เข้าใจสถานการณ์ในเกมมากขึ้น รวมถึงเป็นการพูดคุยทั่วไป ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศตึงเครียด กับเข้าใจคาแรคเตอร์ในปาร์ตี้มากยิ่งขึ้น
ตัวละคร ซึ่งเป็นฟีเจอร์เด็ดของเกมตระกูล Tales of มานาน ยังคงรักษามาตรฐานได้ดีมากในภาคนี้ ทุกคาแรคเตอร์ในปาร์ตี้ มีลักษณะนิสัยกับแนวคิดเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะคู่ Alphen และ Shionne ซึ่งทั้งสองคนมีนิสัยกับ Mindset แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว จะแสดงวิวัฒนาการตัวละครอย่างเห็นได้ชัดระหว่างดำเนินเรื่อง tale of arise nintendo switch
แม้ตัวละครฝ่ายร้ายมีการออกแบบน่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่มีบทบาทเพียงเล็กน้อย (เหมือนโผล่มาเป็น Boss Fight มาให้เรามาตบ แล้วก็จากไป) นอกจากนี้ ตัวเกมมีความเร็วในการดำเนินเนื้อเรื่องค่อนข้างช้ากับเน้นคุยเหมือนเกม JRPG หลายเกม ซึ่งทำให้บางคนอาจหมดความสนใจในเนื้อเรื่องไปเลยก็ได้
การนำเสนอ/กราฟิก
Tales of Arise ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้วยการนำเสนอผลงานศิลปะสไตล์อะนิเมะญี่ปุ่นแบบเดียวกัน แต่ Bandai Namco ได้ยกระดับมาตรฐานด้วยรายละเอียดที่มากขึ้น โดยไปจากเส้นและสีธรรมดา กลายเป็นภาพวาดสีน้ำ (ใช้สีน้ำ) เพื่อช่วยให้ภาพดูนุ่มนวลขึ้น มันดีเหมือนงานศิลปะ เมื่อเปรียบเทียบกับเกม Tales of ภาคก่อน ๆ ต้องบอกว่ามันเหมือนกับการเล่นเกมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และด้วยเหตุผลนี้ เราจึงเชื่อมั่นว่านี่อาจเป็นเกมอนิเมะที่มีกราฟิกสวยงามที่สุดในปัจจุบัน tales of arise review 2023
สิ่งที่สำคัญที่สุดในซีรีส์ Tales of Series คือการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนฝูงในงานปาร์ตี้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางผจญภัยหรือพักผ่อนที่แคมป์ สมาชิกในกลุ่มมักจะพูดคุยกันอย่างเปิดเผยเสมอ พร้อมทั้งช่วยให้เราผู้เล่นเข้าใจความคิดของตัวละครได้ดีขึ้น การโต้ตอบเป็นเรื่องสนุก มันยังทำให้ตัวละครแต่ละตัวมีชีวิตชีวาอีกด้วย
เพลงประกอบของ Tales of Arise ก็ถือเป็นจุดชูโรงที่ควรกล่าวถึง ด้วย Soundtrack เพลงแนวออเคสตราสุดอลังการ, เสียงไวโอลินที่บรรเลงอย่างเร้าใจ และเสียงขับร้องเสียงประสาน ช่วยเสริมสร้างอรรถรสให้เพลเยอร์ได้ดื่มด่ำไปกับฉากต่อสู้ และการผจญภัยในโลกกว้างของเกมได้มากเลยทีเดียว
ส่วนด้านคัตซีนของเกมได้แยกออกเป็น 4 ประเภท ระหว่างฉากคัดซีนในเกม, คัตซีนแบบกราฟิกโนเวล, คัตซีนภาพยนตร์ และคัตซีนอนิเมะที่สร้างโดย Ufotable สตูดิโอชื่อดังที่เคยผลิตผลงานเรื่อง Fate/Zero กับ Demon Slayer ด้วยตัวเกมได้ใช้เครื่องมือ Faceware ที่ออกแบบมาเพื่อจับภาพเคลื่อนไหว (Motion Capture) โดยเฉพาะ ตัวละครทุกคนในเกมจึงสามารถแสดงอารมณ์ผ่านใบหน้า และมีแอนิเมชันการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติจนแทบไม่มีที่ติ tale of arise ไทย
อย่างไรก็ตาม เราค้นพบว่าตัวอักษรและสัญลักษณ์ในหน้าต่าง HUD นั้นเล็กเกินไป ทำให้สังเกตซับไตเติล กับ Notification ได้ค่อนข้างยาก รวมถึงตัวเกมขาด Quality-of-Life ส่งผลทำให้การเล่นเกมไม่สะดวกเท่าที่ควร ยกตัวอย่างเช่น ไม่มีวิดีโอสาธิตพรีวิวสกิล Artes ให้รับชม ทำให้เราต้องเสียเวลาถอดหรือใส่สกิล Artes เพื่อทดลองใช้งานทุกครั้ง และ Save Slot มีเพียงแค่ 14 ช่อง ซึ่งนับว่าน้อยมากสำหรับเกม RPG ที่มีเนื้อเรื่องยาวหลายชั่วโมง เป็นต้น
ถึงอย่างนั้น แม้ปัญหาที่กล่าวมาอาจสร้างความจุกจิกให้เพลเยอร์บางคน แต่โดยรวมแล้ว มันเป็นเพียงข้อเสียเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ส่งผลทำให้การเล่นเกมสนุกสนานลดลงแต่อย่างใด
เกมเพลย์
Tales of Arise ยังคงมีระบบการต่อสู้คล้ายกับเกมก่อนๆ เมื่อการเผชิญหน้าสัตว์ประหลาดเสร็จสิ้น เกมดังกล่าวเข้าสู่ฉากการต่อสู้ในอารีน่า วงกลมสามารถเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดก็ได้ เกมดังกล่าวจะมีการควบคุมการโจมตีตามปกติ และโจมตีด้วยทักษะอาร์เตส
อาร์เตสเปรียบเสมือนทักษะการโจมตีพิเศษ เช่น การโจมตีอย่างรวดเร็ว 2 ครั้งหรือการร่ายเวทย์ธาตุ ทุกครั้งที่คุณใช้ Artes ต้องแลกเป็น AG (หลอดสีน้ำเงินเป็นกล่องสามเหลี่ยม) ทุกครั้งที่คุณใช้ อย่างไรก็ตาม หลอดไฟ AG มีอัตราการฟื้นตัวได้เองที่รวดเร็วมาก สิ่งนี้ทำให้ผู้เล่นสามารถใช้ทักษะของตนซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่ต้องกังวลว่า AG จะหมดและหายามาฟื้นฟูเหมือนในเกม RPG หลายเกม
ส่วนทักษะสนับสนุน เช่น การฟื้นฟู HP นั้นจะใช้ CP (Cure Point) ซึ่งจะแชร์กับสมาชิกทุกคนในกลุ่ม CP สามารถฟื้นฟูได้โดยการพักผ่อนหรือใช้ไอเทม Orange Gel เท่านั้น ซึ่งค่อนข้างหายาก และขายแพง ดังนั้นระหว่างการต่อสู้คุณควรจัดการ CP ให้ดีโดยตั้งคำสั่งต่างๆ เช่น ใช้ไอเทมฟื้นฟู HP เท่านั้น ใช้ CP เมื่อจำเป็น หรืองดใช้ CP เลย
เกมภาคนี้ได้นำเสนอระบบการต่อสู้ใหม่ที่เรียกว่า ‘Boost Attacks’ ที่สามารถกดปุ่ม D-Pad เพื่อเรียกเพื่อนในปาร์ตี้มาช่วยโจมตีสนับสนุน ยกตัวอย่าง Boost Attacks ของ Law สามารถโจมตีเข้ากับศัตรูที่มีเกราะหนา หรือ Boost Attack ของ Kirasa จะเป็นการโจมตีโดยใช้โล่ ช่วยป้องกันถูกโจมตีประเภทพุ่งชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สกิล Boost Attacks มีประโยชน์ทั้งการใช้ปะทะมอนสเตอร์ทั่วไป และ Boss Fight ต่าง ๆ ซึ่งหลังจากใช้งานเสร็จแล้วจะต้องรอชาร์จใหม่อีกครั้ง
หากโจมตีศัตรูติดต่อกันหลายครั้งจนหลอดสี่เหลี่ยมของมอนสเตอร์เต็ม ช่วงเวลานั้น ผู้เล่นจะสามารถใช้สกิล ‘Boost Strikes’ เพื่อปลิดชีพหรือสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง (แต่ส่วนใหญ่ ใช้แล้วมอนสเตอร์จะตายโดยทันที) ซึ่งหลอดสี่เหลี่ยมของมอนสเตอร์จะรีเซตเองโดยอัตโนมัติ หากศัตรูกลับมายืนทรงตัวได้อีกครั้ง ฉะนั้นจะต้องคอยกดโจมตีท่าปกติผสมกับสกิล Artes ตลอดเวลา เพื่อรักษาคอมโบไว้ ซึ่งระบบนี้ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ Tales of Arise มีระบบการต่อสู้ที่ดุเดือดสุด ๆ
นอกจากนี้ ตัวละครแต่ละตัวในปาร์ตี้สามารถกด R2 เพื่อหมุนและหลีกเลี่ยงการโจมตีของศัตรู ทักษะดังกล่าว นอกจากจะมีประโยชน์ในการรักษาพลังชีวิตแล้ว ยังทำให้ตัวละครเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
ผู้เล่นสามารถเรียนรู้ทักษะ Artes ใหม่ได้โดยการทำซ้ำทักษะเดียวกันหลายครั้ง หรืออัปเกรดผ่านแผงทักษะซึ่งมีตั้งแต่การปลดล็อกช่อง AG เพิ่มเติม พร้อมความยืดหยุ่น เช่น ความสามารถในการร่ายคาถาขณะเดิน หรือเพิ่มบัฟต่างๆ การอัพเกรดแต่ละครั้งจะต้องแลกเป็น SP ที่ได้รับจากการเอาชนะมอนสเตอร์และทำภารกิจย่อยให้สำเร็จ
คุณสมบัติอีกอย่างที่ควรกล่าวถึงก็คือ Grind in Tales of Arise นำเสนอเส้นทางที่แตกต่างกันไปยังไอเทมฟาร์ม, SP และสกุลเงิน จากการตกปลา ขายปลาเป็นๆ เพื่อเงิน หรือใช้เป็นไอเท็มทำอาหาร ทำภารกิจย่อยให้สำเร็จเพื่อแลกกับเงินและ SP (ภารกิจบางภารกิจจะปลดล็อคทักษะ สูตร และฟีเจอร์ใหม่) เลี้ยงหมู ไก่ และวัว เพื่อใช้สัตว์เป็นสิ่งของในครัว คุณสามารถบดขณะล่ามอนสเตอร์ได้ ทุกครั้งที่การต่อสู้จบลง เกมจะเพิ่มเกจที่สามารถซ้อนกันได้ถึง 5 ระดับ ยิ่งเลเวลสูง ค่า EXP, SP ที่ได้รับจากการล่ามอนสเตอร์ก็จะยิ่งสูงขึ้น ด้วยตัวเลือกการบดที่หลากหลาย ผู้เล่นสามารถติดไอเท็มทำฟาร์มและเพิ่มเลเวลได้อย่างง่ายดาย
สุดท้าย Boss Fight ของเกมนี้ สามารถออกแบบได้อย่างอลังการ และมีความยากท้าทายระดับหนึ่งเลยทีเดียว บอสแต่ละตัวมีจุดแข็งกับจุดอ่อนแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น บอส Zacarania (ภาพโชว์ในภาพด้านล่าง) เป็นบอสประเภทต้นไม้ และมีการโจมตีพิเศษเป็นธาตุลมที่ค่อนข้างทรงพลังเอาเรื่อง เพราะฉะนั้นผู้เล่นต้องใช้สกิลโจมตีเป็นธาตุไฟ เพื่อให้โค่นล้มบอสเร็วที่สุด และสวมอุปกรณ์สามารถป้องกันการโจมตีธาตุลม
อย่างไรก็ตาม คล้ายกับเกม JPRG หลายเกม บอสทุกตัวของ Tales of Arise มีหลอดเลือดที่สูงมากจนเลข HP เกินหลักหมื่น มีท่าไม้ตายที่รุนแรง รวมถึงตัวเกมจะโยนให้ผู้เล่นต้องหาวิธีปราบบอสด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าการปะทะบอสครั้งแรก เพลเยอร์อาจต้องยอมยากลำบาก หรือ Game Over เพื่อเรียนรู้จังหวะการโจมตี กับวางแผนการต่อสู้ใหม่ ซึ่งโดยรวมแล้ว ความยากของบอสอยู่ในเกณฑ์ที่ท้าทาย แต่สมเหตุสมผล ไม่ได้ยากเกินไปจนถึงขั้น Impossible ซึ่งหากเกมยากเกินไป ผู้เล่นก็สามารถลดระดับความยากได้ตลอดเวลา และแน่นอนว่าก่อนปะทะกับบอส ควรเตรียมตัวไอเทมหลายอย่างให้พร้อมด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง